Powered By Blogger

วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

คำศัพท์เกี่ยวกับเว็บไซต์

คำศัพท์ที่ควรรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์


HTML ย่อมาจากคำว่า Hyper Text Markup Language
เป็นภาษาที่ใช้ในการแสดงผลของเอกสารของหน้า website หรือ ที่เราเรียกกันว่าเว็บเพจ
เป็นภาษาที่พัฒนาโดย World Wide Web Consortium (W3C) เป็นภาษาที่สำคัญมากกับเทคโนโลยีบนเว็บไซต์ ไม่ว่าคุณจะเขียนโปรแกรมบนเว็บไซต์ภาษาใดๆ เช่น PHP, ASP, Perl หรืออื่นๆ คุณก็ต้องมีความจำเป็นในการแสดงผลข้อมูลออกมายัง Web Browser ด้วยภาษา HTML เป็นหลัก หรือให้มองว่า HTML คือ Output ในการแสดงผลสู่จอภาพของ Web Browser

http ย่อมาจาก Hyper Text Transfer Protocol
เป็นโปรโตคอลสื่อสารที่ทำงานอยู่บนระบบโปรโตคอล TCP HTTP ใช้ในระบบเครือข่ายใยแมงมุม (World Wide Web)
ทำหน้าที่ในการจำหน่าย,แจกจ่าย รวมไปถึงการรับข้อมูล จากระบบสื่อกลางชั้นสูง (Hypermedia System) ที่ประกอบด้วยเครื่องให้บริการ (Server) ที่มีอยู่มากมายทั่วโลก

https หรือ Hypertext Transfer Protocol Security
คือ ระบบความปลอดภัยของ HTTP protocol สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครื่อง server และ client
ที่คิดค้นขึ้นโดยบริษัท Netscape เมื่อปลายปี ค.ศ. 1994 โดยมีจุดประสงค์เพื่อรักษาความลับของข้อมูลขณะรับ-ส่ง และเพื่อให้แน่ใจว่า ข้อมูลนั้นถูกรับ-ส่งระหว่างผู้รับและผู้ส่งตามที่ระบุไว้จริง โดยที่ข้อมูลจะต้องไม่ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขไปจากเดิมด้วย HTTPS จะทำงานอยู่บนพอร์ต 443 (ค่าปกติ) ด้วยการเพิ่มข้อมูลในส่วนการระบุตัวผู้ส่ง (Authentication) และการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) ภายใน HTTP กับ TCP
      เวบไซต์ที่ระบุถึงการเชื่อมต่อแบบ Secure HTTP จะขึ้นต้นด้วย https://
และตรงโปรแกรมเว็บบราวเซอร์จะมีรูปกุญแจ เป็นตัวบ่งบอกสถานะว่า ในขณะที่เราใช้บราวเซอร์เรียกดูเว็บเพจใด ๆ ก็ตาม เว็บเพจนั้นใช้ระบบรักษาความปลอดภัยในการรับ-ส่งหรือไม่ สัญลักษณ์รูปกุญแจแสดงถึงการทำงานของระบบรักษาความปลอดภัย ที่เรียกกันว่า SSL

ISP ย่อมาจากคำว่า Internet Service Provider
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ Internet Service Provider
หน่วยงานที่บริการ ให้เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ของบริษัท เข้ากับเครือข่าย อินเทอร์เน็ตทั่วโลก เสมือนตัวแทนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ถ้าผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ต้องการข้อมูลต่างๆ ก็สามารถติดต่อผ่าน ISP ได้ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการใช้บริการอินเตอร์เน็ต ผ่านผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตทั่วไป โดยจะรวมไปถึงบริการ Webhosting ซึ่งหมายถึง บริการให้เช่าพื้นที่ Website และผู้ที่ทำหน้าที่ดูแล Webboard สาธารณะ โดยอาจรวมถึง Webmaster ที่มีความรับผิดชอบโดยตรงกับข้อมูลที่ปรากฏบนเวบด้วย

URL ย่อมาจากคำว่า Uniform Resource Locator
หมายถึงที่อยู่ (Address) ของข้อมูลต่างๆในอินเตอร์เนต ซึ่งรูปแบบของ URL จะประกอบด้วย
http://www.urlbookmarks.com/support/urlfaq.htm
 *ชื่อโปรโตคอลที่ใช้ (http ซึ่งย่อมาจาก HyperText Transfer Protocol)
 *ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ และชื่อเครือข่ายย่อย (www.urlbookmarks)
 *ประเภทของเวบไซต์ (. com) ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท คือประเภทสากล และ ประเภทท้องถิ่นจะมีชื่อย่อของแต่ละประเทศต่อท้าย
 *ไดเร็กทอรี่ (/ support/)
 *ชื่อไฟล์และนามสกุล ( urlfaq.htm)
ดังนั้นการอ้างอิงของข้อมูลบนอินเตอร์เนตต้องระบุ URL ให้ถูกต้อง มิฉะนั้นจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลนั้นได้

Keyword
ความหมาย Keyword ในภาษาของเครื่องคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต
คือ คำหรือข้อความ ที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต พิมพ์ลงไปเพื่อใช้ในการ ค้นหาเว็บไซต์ หรือข้อมูลต่าง ๆ นั่นเอง Keyword นั้น จะเป็นคำที่ใช้ในการอธิบายรูป ลักษณะของเอกสารนั้น เช่น ชื่อเรื่อง หัวข้อ หัวเรื่อง รายละเอียดอย่างย่อของเอกสาร เพื่อความสะดวก และความรวดเร็ว ในการสืบค้น เอกสารในข้อมูลระบบ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาเว็บเพจ ที่อยู่ในฐานข้อมูลของ Search Engine หรือการสืบค้นเอกสารต่างๆ ในระบบของห้องสมุด เป็นต้น

Tags ย่อมาจากคำว่า Hyper Text Markup Language
คำสั่ง หรือรหัสที่ใช้ในการกำหนดรูปแบบของ TEXTโดยจะมีตัวอักษรอยู่ภายในเครื่องหมาย < และ >
เช่น     <font>, <b>, <i>, <u>, <hr>, <br>, <img> ฯลฯ

www คือ World Wide Web หรือที่เรามักเรียกสั้นๆว่า Web หรือ W3 (WWW)
คือ คอมพิวเตอร์ส่วนหนึ่งบนอินเตอร์เน็ต ที่ถูกเชื่อมต่อกันในแบบพิเศษ
ที่ทำให้คอมพิวเตอร์เหล่านั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลเนื้อหาที่เก็บไว้ภายในของแต่ละเครื่องได้ (กลายเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่) โดยผ่านทาง บราวเซอร์ (Browser) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ประเภทหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้อ่านและตอบโต้ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ใน World Wide Web โดยเฉพาะ บราวเซอร์ที่พบเห็นได้มากที่สุดในปัจจุบัน ได้แก่ Internet Explorer ของ และ Netscape

blog
ก็คือ Website รูปแบบหนึ่ง ที่มีการจัดเรียง “เรื่อง” หรือ post เรียงลำดับ
โดยเรื่องใหม่จะอยู่บนสุด ส่วนเรื่องเก่าสุดก็จะอยู่ด้านล่างสุด Blog อาจจะพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นของ ไดอารี่ online ก็เป็นได้ โดย Blog จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ได้ ไม่จำกัด ซึ่ง ไดอารี่ ก็ถือว่าเป็น Blog ในรูปแบบหนึ่ง ในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ฯลฯ และกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรี และเสียค่าใช้จ่าย

E-commerce พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ ขบวนการที่ใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อทำธุรกิจที่จะบรรลุเป้าหมายขององค์กร
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ใช้เทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ และครอบคลุมรูปแบบทางการเงินทั้งหลาย เช่น ธนาคารอิเล็กทรอนิกส์, การค้าอิเล็กทรอนิกส์, อีดีไอหรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์, ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์, โทรสาร, คะตะล้อกอิเล็กทรอนิกส์, การประชุมทางไกล และรูปแบบต่าง ๆ ที่เป็นข้อมูลระหว่างองค์กร

Spam
คือ Email ที่เป็นขยะที่เราไม่ต้องการ โดยส่งมาจาก Email ที่เราไม่รู้จัก
ซึ่งจะทำให้เราเสียพี้นที่เก็บข้อมูลของเราไปโดยเปล่าประโยชน์ จุดประสงค์ของ Email Spam นั้นผู้ส่งส่วนใหญ่ต้องการโฆษณาบริการต่างๆที่ตัวเองมี

RSS ย่อมาจาก Really Simple Syndication
คือ บริการที่อยู่บนระบบ อินเตอร์เน็ท จัดทำข้อมูลข่าวสารให้อยู่ในรูปแบบ XML
เพื่ออำนวยความสะดวกให้ กับผู้ใช้ โดยส่งข่าวหรือข้อมูลใหม่ๆ ให้ถึงเครื่องตลอดเวลาที่มีการ Updateไม่ต้อง เสียเวลาเปิดเว็บไซต์เข้ามาค้นหา

FTP ย่อมาจาก File Transfer Protocal
เป็น Protocal คือ มาตรฐานที่กำหนดใช้เพื่อการถ่ายโอนข้อมูล หรือการ Upload / Download ข้อมูลบน Internet
โดยเราจะใช้โปรแกรมที่เรียกว่า FTP Client มาช่วยในการ Upload / Download ข้อมูลไปเก็บไว้ที่ Server เช่น โปรแกรม CuteFTP, WS_FTP ฯลฯ

Web Server
บริการ HTTP (HyperText Transfer Protocol) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถอ่านข้อมูล ทั้งภาพ และเสียง
จากเครื่องบริการ ผ่าน Browser เช่นบริการ http://www.sanook.com หรือ http://localhost เป็นต้น เครื่องบริการ ที่รอรับคำร้องขอจาก web browser ข้อมูลที่จะส่งไปอาจเป็นเว็บเพจ ภาพ หรือเสียง เป็นต้น สำหรับโปรแกรมที่ได้รับความนิยม ให้นำมาเปิดบริการ web คือ Apache web server หรือ Microsoft web server

Web 2.0
ก็คือการให้ความหมายของสิ่งที่เปลี่ยนไปของเทคโนโลยีเว็บไซต์ ซึ่งก็เหมือนกับที่สมัยก่อน
เราเปลี่ยนจากทีวีขาวดํามาเป็นทีวีจอสี โดยกําหนดตัวเลขว่าเ็ป็น generation ที่ 2ของเว็บนั่นเอง สิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ Web 2.0 นั้นก็ เ่ช่น AJAX, Blog, Feeds, Podcast, Social networking ฯลฯ

Ajax ย่อมาจากคำว่า Asynchronous JavaScript And XML
เป็นเทคนิคในการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันเพื่อให้ความสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ดีขึ้น
โดย การรับส่งข้อมูลในฉากหลัง ทำให้ทั้งหน้าไม่ต้องโหลดใหม่ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งช่วยทำให้เพิ่มการตอบสนอง ความรวดเร็ว และการใช้งานโดยรวม

Syntax
รูปแบบของ ภาษา ที่เรา เขียนในคอม พิวเตอร์ และ จะนํา algorithm
มาเรียบเรียง ใหม่ ในรูปแบบของแต่ละภาษา

PHP ย่อมาจาก Personal Home Page
ซึ่งเป็นภาษาสคริปต์ที่ทำงานฝั่งเซิร์ฟเวอร์ที่เรียกว่า Server Side Script
โดยการทํางานของ PHP จะประมวลผลฝั่งเซิร์ฟเวอร์แล้วส่งผลลัพธ์ไปยังฝั่งไคลเอ็นท์ผ่านเว็บบราเซอร์ เช่นเดียวกับกับ ASP , JSP ทำให้การทำงานมีความปลอดภัยสูง

Asp หรือ Active Server Page
คือ เทคโนโลยีในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับเว็บเพจ พัฒนาโดยบริษัท ไมโครซอฟต์
มีจุดเด่นในการใช้พัฒนาและจัดการแอพพลิเคชั่นบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ โดยจะทำงานในลักษณะของโปรแกรมแปลภาษา (Interpreter) ที่ใช้ในการตีความเว็บเพจที่เขียนขึ้นมาโดยใช้ภาษา VBScript, Jscript/JavaScript หรือ Perl ที่ประกอบด้วยส่วนที่เป็นการเขียนแบบ ASP (เริ่มต้นด้วย <% และปิดด้วย %>

Aspx
เป็นนามสกุลของ asp.net

.net
โดเมนเนมสากลที่ทุกประเทศสามารถจดได้ แต่จะต้องสำหรับเว็บไซต์ทางด้านเน็ตเวิร์ก หรือ กลุ่มบริหารเครือข่าย (Network Services) เท่านั้น

E-newsletter
คือ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย
และการจัดเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปยังกลุ่มเป้าหายได้อย่างแม่นยำ นับได้ว่าเป็นการโฆษณาผ่านอีเมล์ไปถึงลูกค้าจึงนับว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด และทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน โฆษณาได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

Component
เป็นการระบุส่วนของโปรแกรมที่ใหญ่กว่า หรือการก่อสร้างโดยปกติ component
ให้ฟังก์ชันเฉพาะหรือกลุ่มของฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง ในการออกโปรแกรมระบบ แบ่งออกเป็น component ที่แสดงในรูปของ module ส่วนการทดสอบ component เป็นการทดสอบความสัมพันธ์ ของ module ทั้งหมดด้วยการสร้าง component เป็นกลุ่มเพื่อทำให้มั่นใจ component หรือ module ทำงานด้วยกัน

Internet
เป็นระบบเครือข่ายระยะไกล ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน
ผ่านระบบสื่อสารต่าง ๆ เช่น ดาวเทียม เคเบิลใยแก้ว (Optic fiber) เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องทั่วโลก สามารถติดต่อสื่อสารถึงกัน ได้โดยใช้มาตรฐาน ในการรับส่งข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียว หรือที่เรียกว่าโปรโตคอล (Protocol) ซึ่งโปรโตคอล ที่ใช้บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีชื่อว่า ทีซีพี/ไอพี (TCP/IP : Transmission Control Protocol/Internet Protocol)

Intranet
เป็นระบบเครือข่ายภายในองค์กร เป็นบริการ และการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหมือน
กันกับอินเทอร์เน็ต แต่จะเปิดให้ใช้เฉพาะสมาชิกในองค์กรเท่านั้น เช่น อินทราเน็ตของธนาคารแต่ละแห่ง หรือระบบเครือข่ายมหาดไทย ที่เชื่อมศาลากลางทั่วประเทศ เป็นต้น เป็นการสร้างระบบบริการข้อมูลข่าวสาร ซึ่งเปิดบริการคล้ายกับอินเทอร์เน็ตเกือบทุกอย่าง แต่ยอมให้เข้าถึงได้เฉพาะคนในองค์กรเท่านั้น เป็นการจำกัดขอบเขตการใช้งาน ดังนั้นระบบอินเทอร์เน็ตในองค์กร ก็คือ "อินทราเน็ต" นั่นเอง แต่ในช่วงที่ชื่อนี้ยังไม่เป็นที่นิยม ระบบอินทราเน็ต ถูกเรียกในหลายชื่อ เช่น Campus network, Local internet, Enterprise network เป็นต้น

Style Sheet หรือ CSS (Cascading Style Sheets)
คือ ชุดคำสั่งที่ใช้สำหรับการกำหนดการแสดงผลข้อมูลหน้าเว็บพจ เป็นมาตราฐานหนึ่งของ W3C
ที่กำหนดขึ้นมา เพื่อใช้ในการตบแต่งหน้าเอกสารเว้บเพจโดยเฉพาะ การใช้งาน CSS จะเข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถให้กับ HTML เดิมที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันนี้ CSS ได้มาอยู่บนมาตราฐานที่เวอร์ชั่น 2.0 (CSS2.0) โดยในปัจจุบันเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะนิยมใช้งาน CSS กันเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจาก CSS มีความสามารถในการตบแต่งการแสดงผลข้อมูลหน้าเว็บเพจที่เหนือกว่า HTML โดยปรกติอยู่มาก บางเว็บไซต์ที่เราเห็นกันใน Internet แถบจะเรียกได้ว่าใช้ CSS ล้วน ๆ ในการออกแบบ Layout หน้าเว็บเพจเลยทีเดียว

Web tracking
คือ การติดตามพฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์
และวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ พร้อมทั้งรายงานผลข้อมูลและสถิติต่างๆ

Web crawler
เป็นโปรแกรมของ Search Engine ในแต่ล่ะที่ ที่ส่งออกไปเก็บข้อมูล ตัวโปรแกรมจะเล็กมาก
คอยทำหน้าที่วิ่งไปเก็บข้อมูลเก็บลิงค์ต่างๆตามเว็บไซต์ทั่วโลก เพื่อเอาข้อมูลกลับไปจัดเก็บ Index Server แล้วทำการประมวลผลตามอัลกอลิทึ่ม ของแต่ล่ะ Search Engine ซึ่งอัลกอลิทึ่มในแต่ล่ะ Search Engine นี้จะแตกต่างกันออกไป อัพเดทกันอยู่เสมอ ไม่มีโครงสร้างตายตัว

Robot engine
โปรแกรมหุ่นยนต์ที่ถูกเขียนขึ้นมาเข้าไปวิ่งหาเว็บไซน์ต่างๆ โดยอัตโนมัติ
และจะเก็บข้อมูลต่างๆ ในทุกๆ หน้า ในเว็บไซต์นั้น ไม่ว่าจะเป็น Title Page, Meta Keywords, Meta Description, Body ของแต่ละหน้ากลับมาไว้ในเครื่องแม่ข่าย แถมยังเก็บURLใหม่ที่พบจากเว็บไซต์ที่ผ่านมาแล้ว และโปรแกรมหุ่นยนต์นี้ จะทำหน้าที่ในการเข้าไปอ่านเว็บไซต์ที่ถูกเก็บมานั้น ด้วยกระบวนการเดิมต่อไป ซึ่งการทำงานในลักษณะนี้ทำให้ปริมาณเว็บไซต์ที่จะตรวจสอบ และเก็บไว้ในฐานข้อมูลนั้นเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ ทุกเวลา ทำให้ข้อมูลมีความหลากหลาย และผลของการค้นหามีความหลากหลายมากขึ้น แต่จะมีข้อเสีย คือ ข้อมูลที่ถูกเก็บโดยโปรแกรมนั้น เราจะต้องมีการมาจัดการอีกครั้งหนึ่งในแบบไดเรกทอรี เพื่อให้เป็นหมวดหมู่ และง่ายต่อการค้นหาแบบตรง (Direct) ต่อไป

Swf
ไฟล์ Flash ที่เป็นไฟล์ที่สมบูรณ์ และถูก compiled และ published
ไฟล์แล้ว ซึ่งไม่สามารถแก้ไขด้วย Macromedia Flash ได้อีกต่อไป

Flv คือ"Flash movie" หรือ Adobe Flash (หรือที่เราคุ้นเคยกับชื่อ Macromedia Flash )
เป็นไฟล์จะมีนามสกุลเป็น .swf และ .flv
ซึ่งจะได้จากการ Compile ไฟล์ .fla ที่ถูกสร้างโดย Flash, FreeHand, Generator, and other tools นั่นเอง โดยจะถูกสร้างขึ้นมาในการนำเสนอ แอนิเมชัน และ อินเตอร์แอกทีฟ ในเว็บเพจ และในโปรแกรมหลายๆ โปรแกรมระบบ และ เครื่องมือต่างๆ ที่มีความสามารถในการแสดง แฟลชได้ และ แฟลชยังเป็นที่นิยมในการใช้สร้าง แอนิเมชั่นโฆษณาออกแบบส่วนต่างๆ ของเว็บเพจใส่วิดีโอบนเว็บ และอื่นๆ

Web service
คือ ระบบซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมา เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านระบบเครือข่าย
โดยที่ภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ คือเอกซ์เอ็มแอล เว็บเซอร์วิสมีอินเทอร์เฟส ที่ใช้อธิบายรูปแบบข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอร์ประมวลผลได้ เช่น WSDL ระบบคอมพิวเตอร์ใช้งานสื่อสารโต้ตอบกับเว็บเซอร์วิสตามรูปแบบที่ได้กำหนดไว้แล้ว โดยการส่งสาสน์ตามอินเตอร์เฟสของเว็บเซอร์วิสนั้น โดยที่สาสน์ดังกล่าวอาจแนบไว้ในซอง SOAP หรือส่งตามอินเตอร์เฟสในแนวทางของ REST สาสน์เหล่านี้ปกติแล้วถูกส่งโดยอาศัย HTTP และใช้ XML ร่วมกับมาตรฐานเกี่ยวกับเว็บอื่นๆ โปรแกรมประยุกต์ที่เขียนโดยภาษาต่างๆ และทำงานบนแพลตฟอร์มต่างๆกันสามารถใช้เว็บเซอร์วิสเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์Hacker

Cracker
คือ ผู้ที่หาทางเจาะเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ต่างๆโดยไม่ได้รับอนุญาต
อาจจะเพื่อความสนุก หรือเพื่อการโจรกรรมและทำลายข้อมูลเป็นคำที่ใช้แทนคำว่า แฮกเกอร์ เพื่อให้คำว่าแฮกเกอร์ยังคงความหมายเดิมว่าเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านโปรแกรมและแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ได้เก่ง

Pocket PC
เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาแบบ PDA เพื่อใช้สำหรับการคำนวน เก็บข้อมูล ถ่ายรูป โทรศัพท์ รวมทั้งเล่นเกมส์
โดยสามารถติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเข้าไปได้ เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ แต่จะแตกต่างจากเครื่องปาล์มตรงที่ Pocket PC จะใช้ระบบปฏิบัติการค่ายไมโครซอฟท์เป็นหลัก เช่น Window CE จึงทำให้ผู้ใช้งานพ็อกเก็ตพีซีที่คุ้นเคยกับระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์มาก่อน สามารถใช้งานได้ง่ายมาก แต่จะกินกำลังของเครื่องมากกว่าเครื่องปาล์ม

Firewall
คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับป้องกันระบบ Network (เครือข่าย) จากการสื่อสารทั่วไปที่ถูกบุกรุก จากผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในระบบ Network หรือระบบเครือข่าย การป้องกันโดยใช้ระบบ Firewall นี้จะเป็นการกำหนดกฏเกณฑ์ในการควบคุมการเข้า-ออก หรือการควบคุมการรับ-ส่งข้อมูล ในระบบเครือข่าย

Bandwidth
คือ ความกว้าง หรือ ช่วงขนาดของข้อมูล กล่าวคือ สามารถที่จะส่งและรับได้ไม่เกินที่กำหนดไว้
เปรียบได้กับการจราจร เช่น ถ้ามี 4 เลน ก็เหมือนมี bandwidth 4

Freeware
หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นและสามารถนำไปใช้ได้ในทุกจุดประสงค์โดยไม่ต้อง เสียค่าใช้จ่าย
(เช่นราคาขายหรือค่าลิขสิทธิ์) ฟรีแวร์เป็นลักษณะก้ำกึ่งระหว่างซอฟต์แวร์พาณิชย์และซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซ คืออนุญาตให้กลุ่มผู้พัฒนามีส่วนร่วมในการสร้างซอฟต์แวร์ แต่ก็ไม่เผยแพร่รหัสต้นฉบับสู่สาธารณชนเพื่อรักษาความลับทางการค้า

Shareware
คือ โปรแกรมที่ถูกจำกัดความสามารถไว้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้โปรแกรม
โดยหากสนใจใช้โปรแกรมอย่างครบทุกความสามารถ จึงจ่ายเงินเป็นค่าลงทะเบียนให้ผู้พัฒนาโปรแกรม ประโยชน์ของการขายโปรแกรมด้วยวิธีนี้คือ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเสียเงินก็สามารถใช้โปรแกรมได้ และยังได้สร้างความคุ้นเคยในการใช้งานให้ผู้ใช้ด้วย รวมถึงเป็นการแนะนำสินค้าที่ดีวิธีหนึ่ง ส่วนความสำเร็จของผู้เขียนโปรแกรมแชร์แวร์จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ผู้ใช้ที่ทดลองใช้โปรแกรมไปแล้วตัดสินใจลงทะเบียน Commercial Product

Home Page
คือ หน้าแรกที่แสดงข้อมูลของเว็บไซต์ หรือ WWW (World Wide Web)
เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ หรือ เป็นการดึงดูด ให้เข้าไปชมข้อมูลภายใน ซึ่งภายในโฮมเพจอาจมีเอกสารข้อความอื่นๆที่เรียกว่า เว็บเพจ (web page) เชื่อมโยงต่อจากโฮมเพจนั้นได้อีกเป็นจำนวน

Upload
คือ การที่เราเอาข้อมูลของเราไปฝากไว้ใน web ที่มีการเปิดให้ upload
จากนั้นก็จะมีคนเข้าไป download ข้อมูลนั้นไปใช้งานได้ หรือเป็นการส่งข้อมูลจาก Client ไปยัง Server สรุปคือถ้าเราส่งข้อมูลออกไป เรียกว่า การ Upload

Download
คือ การโอนย้ายไฟล์หรือข้อมูลจากที่หนึ่งไปอีกทีหนึ่ง
เช่น การโอนไฟล์หรือว่าข้อมูลมาจาก อินเตอร์เนต หรือว่า จากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ เข้ามาบันทึกเอาไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ในทางกลับกัน ถ้าเราจะนำไฟล์หรือข้อมูลของเรา ไปบันทึกไว้เครื่องอื่น ที่มีการเชื่อมต่อกันมากกว่า 2 เครื่อง สรุปถ้าเรารับข้อมูลมา เรียกว่า การ Download การรับข้อมูลจาก Server มาเก็บไว้ที่ Client

Search engine
คือ โปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต
โดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมหรือผู้ให้บริการแต่ละราย Search engine ส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญ (คีย์เวิร์ด) ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป จากนั้นก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่มันคิดว่าผู้ใช้น่าจะต้องการขึ้นมา ในปัจจุบัน Search engine บางตัว เช่น google จะบันทึกประวัติการค้นหาและการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ไว้ด้วย และจะนำประวัติที่บันทึกไว้นั้น มาช่วยกรองผลลัพธ์ในการค้นหา

Address
คือ ตำแหน่งที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในเรื่องอินเตอร์เน็ตนำคำนี้มาใช้ในหลายความหมาย ได้แก่
 *ตำแหน่งบนเครื่องแม่ข่ายอินเตอร์เน็ต (IP Address)
 *ไฟล์ที่ระบุ (เช่น เว๊บเพจ) หรือเรียกว่า file (หรือ homepage ) address
 *ชื่อผู้ใช้อีเมล์ (E-mail Address)

Link
คือ หัวข้อต่าง ๆ หรือส่วนที่สามารถเชื่อมโยงหรือว่าคลิกไปยังเวบไซต์
หรือ ไปยังรายละเอียดที่ระบุเอาไว้ ผู้ใช้จะต้องใช้เมาส์เลื่อนไปคลิก ยังลิงก์ที่ต้องการ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ มักจะมี "การขีดเส้นใต้" ไว้ และถ้าผู้ใช้เลื่อนลูกศรเมาส์ ไปอยู่บนลิงก์ ลูกศรเมาส์ก็จะเปลี่ยนเป็นรูปมือที่ยื่นนิ้วชี้ออกมา บนหัวข้อนั้น ๆ

Domain name
คือ ชื่อเว็บไซต์ ชื่อบล็อก ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้จดจำ
และนำไปใช้งานได้ง่ายทั้งในการเข้าชมผ่านบราวเซอร์ของผู้ใช้ทั่วไป ยังรวมไปถึงผู้ดูแลระบบ Domain name System ที่สามารถแก้ไข IP Address ของชื่อโดเมนเนมนั้นๆได้ทันทีโดยที่ผู้ใช้ทั่วไปไม่จำเป็นต้องรับรู้หรือจดจำ IP Address ที่มีการเปลี่ยนแปลง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เผยแพร่เว็บไซต์ จะมีโดนเมนเนมเฉพาะไม่ซ้ำกับใคร

DNS ย่อมาจากคำว่า Domain Name System
เป็นระบบจัดการแปลงชื่อไปเป็นหมายเลข IP address โดยมีโครงสร้างฐานข้อมูลแบบลำดับชั้น
เพื่อใช้เก็บข้อมูลที่เรียกค้นได้อย่างรวดเร็ว กลไกหลักของระบบ คือ ทำหน้าที่แปลงข้อมูลชื่อและหมายเลข IP address หรือทำกลับกันได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเพิ่มเติมอื่นๆ อีก เช่น แจ้งชื่อของอีเมล์เซิร์ฟเวอร์ใน domain ที่รับผิดชอบด้วย ในระบบ จะมีการกำหนด name space ที่มีกฎเกณฑ์อย่างชัดเจน มีกลไกการเก็บข้อมูลเป็นฐานข้อมูลแบบกระจาย ทำงานในลักษณะของไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์ (Client/Server)

TCP/IP
คือ การที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกเชื่อมโยงกันไว้ในระบบจะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้นั้น
จำเป็นจะต้องมีภาษาสื่อสารที่เรียกว่า โปรโตคอล (Protocol) เช่นเดียวกับคนเราที่ต้องมีภาษาพูดเพื่อให้สื่อสารเข้าใจกันได้ ในระบบอินเทอร์เน็ต จะใช้ภาษาสื่อสารมาตรฐานที่ชื่อว่า TCP/IP

Wi Fi
คือ องค์กรหนึ่งที่ทำการทดสอบผลิตภัณฑ์ Wireless LAN หรือระบบ Network
แบบไร้สาย ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารภายใต้มาตรฐาน IEEE 802.11 ซึ่งอุปกรณ์ทุกตัวที่ต่างยี่ห้อกันนั้นจะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่ประสบปัญหา หากอุปกรณ์นั้นผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานก็จะมีการประทับตรา Wi-Fi Certified ซึ่งหมายความว่า อุปกรณ์ตัวนี้สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ อุปกรณ์อื่นที่มีตรา Wi-Fi Certified ได้ แล้วจึงกลายมาเป็นคำศัพท์ของอุปกรณ์ LAN ไร้สาย

Web hosting
คือ รูปแบบการให้บริการที่อนุญาตให้ผู้ใช้บริการสามารถนำ website ของตนเองขึ้นไป online บน internet
ได้ ทุก website ที่ online บน internet จะต้องได้รับการฝาก หรือเก็บไว้บนคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า web server ซึ่ง web server นี้จะทำหน้าที่เป็นตัวติดต่อกับทุกหนทุกแห่งตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ website ของคุณสามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ทุกเวลาในโลกที่มีการต่อเชื่อม internet โดยแค่พิมพ์ชื่อ web site ของคุณ (Domain Name) ซึ่งอย่างไรก็ตามการติดตั้งระบบ web server เป็นของตนเองสามารถทำได้ แต่มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงมากและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคดูแล ดังนั้นบริษัทส่วนใหญ่จะไม่ดำเนินการลงทุน เพื่อเป็นเจ้าของเอง และนี่คือที่มาของบริการ web hosting

Web base application
ก็คือ Application ที่ทำงานบน Web Server อย่าง e-mail ที่เราใช้หรือ web board
ก็ถือว่าเป็น Web Base Application เหมือนกัน ข้อดีของการเขียน Application บน Web Baseก็คือ ติดตั้งที่ Server ที่เดียว ใครจะเรียกใช้กี่คนก็แค่มี computer แล้วก็มีโปรแกรม Browser อย่าง Internet Explorer

Web design
คือ การออกแบบและวางแผนการแสดงผล และการจัดวางข้อมูลต่างๆ ของเว็บไซต์
ให้เกิดความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพในการแสดงเนื้อหาหรือข้อมูลต่างๆ แก่ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้อย่างชัดเจน เข้าใจง่าย และเกิดความน่าสนใจเนื้อหาทั้งเว็บให้มากที่สุด

Cms หรือระบบการจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์ (Content Management System : CMS)
คือ ระบบที่พัฒนา คิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยลดทรัพยากรในการพัฒนา (Development)
และบริหาร(Management) เว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกำลังคน ระยะเวลา และเงินทอง ที่ใช้ในการสร้างและควบคุมดูแลเว็บไซต์

Web template
คือ รูปแบบเว็บไซต์สำเร็จรูปหรือเว็บไซต์อัตโนมัติ
ที่ยังไม่มีการใส่เนื้อหาเข้าไป คล้ายๆกับ แบบฟอร์ม จดหมายที่มีหัวกระดาษ มีรูป Logo ตกแต่ง ไว้เรียบร้อยแล้ว ท่านเพียงแต่ เปลี่ยนรูป หรือ ใส่เนื้อหาที่ต้องการเข้าไป ซึ่งเหมาะสมสำหรับผู้ที่ไม่มีความชำนาญในการใช้เครื่องมือทำเว็บ เช่น Flash หรือ Graphic ต่างๆ

Xml ย่อมาจากคำว่า Extensible Markup Language
เป็นภาษาที่ใช้กำหนดรูปแบบของคำสั่งภาษา HTML หรือที่เรียกว่า Meta Data
ซึ่งจะใช้สำหรับกำหนดรูปแบบของคำสั่ง Markup ต่าง ๆ XML จะเกิดประโยชน์เต็มที่เมื่อนำมาใช้งานร่วมกับ HTML เนื่องจาก XML มีความพร้อมในแง่ของรายละเอียด การนำข้อมูล ตลอดจนโครงสร้างข้อมูลมาแสดงในรูปแบบ Text ผ่านทาง HTTP และมีความสามารถในการจัดข้อมูล ซึ่งการเขียน Web page โดยใช้ HTML ผู้พัฒนาสามารถกำหนดได้ว่าส่วนไหนจะเป็นตัวหนา ตัวเอียง หรือตัวอักษรเป็นแบบไหน ส่วน XML นั้นจะเป็นการเตรียมส่วนของข้อมูลที่จะนำไปใส่ในช่องที่กำหนดตามการเขียนของ HTML เช่น ข้อมูลราคา หรือราคาที่ตั้งสำหรับการจัดรายการส่งเสริมการขาย อัตราภาษี ค่าขนส่ง เป็นต้น

E-mail
คือ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (electronic mail, ย่อ e-mail หรือ email)
คือวิธีการในการเขียนส่ง หรือรับข้อความผ่านทางเครือข่ายเชื่อมโยงระบบอิเล็กทรอนิกส์ คำว่า อีเมลใช้ใน 2 ความหมาย รวมถึงการส่งข้อความผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยผ่านทาง SMTP และการส่งข้อความภายในเครือข่ายของบริษัทหรือองค์กรโดยผ่านทางระบบมาตรฐานที่ต่างกันออกไป

Session ย่อมาจากคำว่า Hyper Text Markup Language
คือ ข้อมูลที่ web application ใช้ทำการจัดเก็บตรวจสอบข้อมูลของผู้เข้ามาใช้งานเว็บนั้น ๆ
เรานิยมใช้ Session สำหรับการติดตาม user ใน ระบบ login เพื่อตรวจสอบความคงอยู่ของ user รายนั้น ๆ ในระบบขอเรา

Visitor
คือ ผู้เข้าชมเว็บไซต์ เป็นผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่ตั้งค่าของบราวเซอร์ให้ยอมรับ cookies
บริการ tracking ของ Opentracker จึงเลือกใช้ cookies เพื่อทำการติดตามพฤติกรรมการเข้าชม เว็บไซต์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์ ดังนั้น ผู้เข้าชมเว็บไซต์ (visitor) ในที่นี้ จึงหมายถึงพฤติกรรมของบุคคล หรืออาจจะเรียกได้ว่า การกระทำอันเกิดจากบุคคลนั่นเอง เนื่องจากมีเพียงผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่แท้จริงเท่านั้นที่จะสามารถใช้จาวาสคริปเพื่อใช้อินเทอร์เน็ตได้ และในกรณีที่บราวเซอร์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์ ปฏิเสธ cookies ซึ่ง Opentracker ก็จะใช้หมายเลข IP ของเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้แทน cookies เพื่อใช้ในการติดตามพฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์

Page view
การนับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์โดยนับจากจำนวนหน้าเว็บไซต์ที่ผู้เข้าชมได้ทำการ เข้าชม
โดยไม่คำนึงถึงจำนวนครั้งของการร้องขอของบราวเซอร์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ เนื่องจาก หน้าเว็บไซต์ 1 หน้าอาจจะประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลมากกว่า 1 แฟ้มข้อมูล ดังนั้น เมื่อมีผู้เข้าชม เว็บไซต์ได้ทำการเข้าชมหน้าเว็บไซต์เพียง 1 หน้าก็อาจก่อให้เกิดจำนวนครั้งของการร้องขอ ของบราวเซอร์ไปยังเซิร์ฟเวอร์เป็นจำนวนมากได้ เพราะผู้เข้าชมเว็บไซต์อาจเข้าชมแฟ้มข้อมูลที่เป็น รูปภาพหรือกราฟฟิกในหน้าเว็บไซต์หน้านั้นๆ นั่นเอง

W3C เป็นชื่อย่อของ World Wide Web Consortium
จัดตั้งขึ้นมาในเดือนตุลาคม ปี 1994 ขององค์กรนานาชาติ มีองค์กรสมาชิกมากกว่า 450 องค์กร ที่เรารู้จักกันดี
เช่น Apple,Google, Microsoft, Sun Microsystems จัดตั้งขึ้นเพื่อที่ต้องการเห็นเว็บไซต์ถูกนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด W3C จัดตั้งขึ้นมาโดย Tim Berners-Lee ผู้พัฒนาคิดค้นระบบอินเทอร์เน็ต จุดประสงค์เพื่อพัฒนามาตรฐานเกี่ยวกับเว็บไซต์ ที่เรียกว่า W3C Recommendations

WYSIWYG ย่อมาจาก What you see is what you get
คือ ประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่ง ที่สามารถมองเห็นผลลัพธ์ไปพร้อมๆกัน
กับขั้นตอนในการสร้าง Source code ยกตัวอย่างเช่นโปรแกรม Macromedia Dreamweaver เป็น WYSIWYG

Csv ย่อมาจาก Comma-Separated Value
ซึ่งเป็น text file ธรรมดา สามารถแก้ไขด้วย text editor
และประมวลผลในโปรแกรม spreadsheet ได้ทันที โดยจะมี Comma ',' เป็นตัวคันระหว่างข้อมูล


ข้อมูลจาก tnt.co.th

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ข้อความ Error ที่ browser

1xx  หมายถึง  Informational
2xx  หมายถึง  Success
3xx  หมายถึง  Redirection
4xx  หมายถึง  Client Error
5xx  หมายถึง  Server Error
*************************************************
* 100 Continue (100 ดำเนินการต่อ)
* 101 Switching Protocols (101 สลับโปรโตคอล)
* 200 OK (200 โอเค)
* 201 Created (201 สร้างแล้ว)
* 202 Accepted (202 ยอมรับแล้ว)
* 203 Non-Authoritative Information (203 ข้อมูลที่ไม่ผ่านการอนุญาต)
* 204 No Content (204 ไม่มีเนื้อหา)
* 205 Reset Content (205 รีเซ็ตเนื้อหา)
* 206 Partial Content (206 เนื้อหาบางส่วน)
* 300 Multiple Choices (300 หลายตัวเลือก)
* 301 Moved Permanently (301 ถูกย้ายถาวร)
* 302 Moved Temporarily (302 ถูกย้ายชั่วคราว)
* 303 See Other (303 ดูอื่นๆ)
* 304 Not Modified (304 ไม่ได้แก้ไข)
* 305 Use Proxy (305 ใช้พร็อกซี่)
* 400 Bad Request (400 คำขอไม่เหมาะสม)
* 401 Authorization Required (401 ต้องได้รับอนุญาต)
* 402 Payment Required (402 ต้องชำระเงิน)
* 403 Forbidden (403 ถูกห้าม)
* 404 Not Found (404 ไม่พบ)
* 405 Method Not Allowed (405 วิธีการไม่ได้รับอนุญาต)
* 406 Not Acceptable (406 ไม่สามารถยอมรับได้)
* 407 Proxy Authentication Required (407 ต้องรับรองความถูกต้องของพร็อกซี่)
* 408 Request Time-Out (408 คำขอหมดเวลา)
* 409 Conflict (409 ขัดแย้ง)
* 410 Gone (ไม่มีอยู่)
* 411 Length Required (411 ต้องกำหนดความยาว)
* 412 Precondition Failed (412 ข้อกำหนดขั้นต้นล้มเหลว)
* 413 Request Entity Too Large (413 ชื่อคำขอใหญ่เกินไป)
* 414 Request-URL Too Large (414 URL คำขอใหญ่เกินไป)
* 415 Unsupported Media Type (415 ประเภทสื่อไม่สนับสนุน)
* 500 Server Error (500 ข้อผิดพลาดของเซิร์ฟเวอร์)
* 501 Not Implemented (501 ไมได้นำไปใช้)
* 502 Bad Gateway (502 เกตเวย์ไม่เหมาะสม)
* 503 Out of Resources (503 ทรัพยากรไม่เพียงพอ)
* 504 Gateway Time-Out (504 หมดเวลาเกตเวย์)
* 505 HTTP Version not supported (505 เวอร์ชัน HTTP ไม่สนับสนุน)
* 506 Variant Also Negotiates
* 507 Insufficient Storage (WebDAV)
* 509 Bandwidth Limit Exceeded (Apache bw/limited extension)
* 510 Not Extended

เครดิตจาก http://www.tip-com.net/

ปัญหา Blue Screen error

คำว่า Blue Screen คนเล่นคอม จะรู้จักดีและเป็นสิ่งที่ทุกคนกลัวไม่อยากให้เกิดกับ เครื่องของตน เพราะถ้าเกิดนั้นเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าคอมของตนเริ่มม ีปัญหา แต่ที่น่าเจ็บใจคือมันบอกเป็นเลขระหัสที่เราๆ ท่านๆ ต้องงงเพราะไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร และจะมีทางแก้ไขอย่างไร ผมไปอ่านเจอมาว่าแต่ละตัวมีความหมายอย่างไร ก็ลองแปลมาให้คุณๆ ได้อ่าน คิดว่าน่าจะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ได้บ้าง รหัสที่แจ้งของ Blue Screen จริงๆมีเกินร้อยตัว แต่ผมจะลงเฉพาะที่เกิดขึ้นบ่อยๆ จากการสำรวจ (ของเวปเมืองนอกเขา)

มาเริ่มต้นกันเลย

1.(stop code 0X000000BE)Attempted Write To Readonly Memory
สาเหตุและ แนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดจากการลง driver หรือ โปรแกรม หรือ service ที่ผิดพลาด เช่น ไฟล์บางไฟล์เสีย ไดร์เวอร์คนละรุ่นกัน ทางแก้ไขให้ uninstall โปรแกรมตัวที่ลงก่อนที่จะเกิดปัญหานี้ ถ้าเป็นไดร์เวอร์ก็ให้ทำการ roll back ไดร์เวอร์ตัวเก่ามาใช้ หรือ หาไดร์เวอร์ที่ล่าสุดมาลง (กรณีที่มีใหม่กว่า) ถ้าเป็นพวก service ต่างๆที่เราเปิดก่อนเกิดปัญหาก็ให้ทำการปิด หรือ disable ซะ

2.(stop code 0X000000C2) Bad Pool Caller
สาเหตุ และแนวทางแก้ไข:
ตัวนี้จะคล้ายกับตัวข้างบน แต่เน้นที่พวก hardware คือเกิดจากอัฟเกรดเครื่องพวก Hardware ต่าง เช่น ram ,harddisk การ์ดต่างๆ ไม่ compatible กับ XP ทางแก้ไขก็ให้เอาอุปกรณ์ที่อัฟเกรดออก ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ให้ลงไดร์เวอร์ หรือ อัฟเดท firmware ของอุปกรณ์นั้นใหม่ และคำเตือนสำหรับการจะอัฟเดท ให้ปิด anti-virus ด้วยนะครับ เดียวมันจะยุ่งเพราะพวกโปรแกรม anti-virus มันจะมองว่าเป็นไวรัส

3.(stop code 0X0000002E) Data Bus Error
สาเหตุ และแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดจากการส่งข้อมูลที่เรียกว่า BUS ของฮาร์แวร์เสียหาย ซึ่งได้แก่ ระบบแรม ,Cache L2 ของซีพียู , เมมโมรีของการ์ดจอ, ฮาร์ดดิสก์ทำงานหนักถึงขั้น error (ร้อนเกินไป) และเมนบอร์ดเสีย

4.(stop code 0X000000D1)Driver IRQL Not Less Or Equal
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการ ไดร์เวอร์กับ IRQ(Interrupt Request ) ไม่ตรงกัน การแก้ไขก็เหมือนกับ error ข้อที่ 1

5. (stop code 0X0000009F)Driver Power State Failure
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดจาก ระบบการจัดการด้านพลังงานกับไดรเวอร์ หรือ service ขัดแย้งกัน เมื่อคุณให้คอมทำงานแบบ"Hibernate" แนวทางแก้ไข ถ้าวินโดวส์แจ้ง error ไดร์เวอร์หรือ service ตัวไหนก็ให้ uninstall ตัวนั้น หรือจะใช้วิธี Rollback driver หรือ ปิดระบบจัดการพลังงานของวินโดวส์ซะ

6.(stop code 0X000000CE) Driver Unloaded Without Cancelling Pending Operations

สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการ ไดร์เวอร์ปิดตัวเองทั้งๆ ทีวินโดวส์ยังไม่ได้สั่ง การแก้ไขให้ทำเหมือนข้อ 1

7.(stop code 0X000000F2)Hardware Interrupt Storm
สาเหตุ และแนวทางแก้ไข: อาการที่เกิดจากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น USB หรือ SCSI controller จัดตำแหน่งกับ IRQ ผิดพลาด สาเหตุจากไดร์เวอร์หรือ Firmware การแก้ไขเหมือนกับข้อ 1

8.(stop code 0X0000007B)Inaccessible Boot Device
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการ นี้จะมักเจอตอนบูตวินโดวส์ จะมีข้อความบอกว่าไม่สามารถอ่านข้อมูลของไฟล์ระบบหรื อ Boot partitions ได้ ให้ตรวจฮาร์ดดิสก์ว่าปกติหรือไม่ สายแพหรือสายไฟที่เข้าฮาร์ดดิสก์หลุดหรือไม่ ถ้าปกติดีก็ให้ตรวจไฟล์ Boot.ini อาจจะเสีย หรือไม่ก็มีการทำงานแบบ Multi OS ให้ตรวจดูว่าที่ไฟล์นี้อาจเขียน Config ของ OS ขัดแย้งกัน
อีกกรณีหนึ่ง ที่เกิด error นี้ คือเกิดขณะ upgrade วินโดวส์ สาเหตุจากมีอุปกรณ์บางตัวไม่ Compatible ให้ลองเอาอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นหรือคิดว่ามีปัญหาออก เมื่อทำการ upgrade วินโดวส์ เรียบร้อย ค่อยเอาอุปกรณ์ที่มีปัญหาใส่กลับแล้วติดตั้งด้วยไดร์ เวอร์รุ่นล่าสุด

9. (stop code 0X0000007A) Kernel Data Inpage Error
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิด มีปัญหากับระบบ virtual memory คือวินโดวส์ไม่สามารถอ่านหรือเขียนข้อมูลที่ swapfile ได้ สาเหตุอาจเกิดจากฮาร์ดดิสก์เกิด bad sector, เครื่องติดไวรัส, ระบบ SCSI ผิดพลาด, RAM เสีย หรือ เมนบอร์ดเสีย

10.(stop code 0X00000077)Kernel Stack Inpage Error
สาเหตุ และแนวทางแก้ไข:
อาการและสาเหตุเดียวกับข้อ 9

11.(stop code 0X0000001E)Kmode Exception Not Handled
สาเหตุ และแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดการทำงานที่ผิดพลาดของไดร์เวอร์ หรือ service กับ หน่วยความจำ และ IRQ ถ้ามีรายชื่อของไฟล์หรือ service แสดงออกมากับ error นี้ให้ทำการ uninstall โปรแกรมหรือทำการ Roll back ไดร์เวอร์ตัวนั้น
ถ้ามีการแจ้งว่า error ที่ไฟล์ win32k สาเหตุเกิดจาก การ control software ของบริษัทอื่นๆ (Third-party) ที่ไม่ใช้ของวินโดวส์ ซึ่งมักจะเกิดกับพวก Networking และ Wireless เป็นส่วนใหญ่
Error นี้อาจจะเกิดสาเหตุอีกอย่าง นั้นคือการ run โปรแกรมต่างๆ แต่หน่วยความจำไม่เพียงพอ

12.(stop code 0X00000079)Mismatched Hal
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้ เกิดการทำงานผิดพลาดของ Hardware Abstraction Layer (HAL) มาทำความเข้าใจกับเจ้า HAL ก่อน HAL มีหน้าที่เป็นตัวจัดระบบติดต่อระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอ ฟท์แวร์ว่าแอปพลิเคชั่นตัวไหนวิ่งกับอุปกรณ์ตัวไหนให ้ถูกต้อง ยกตัวอย่าง คุณมีซอฟท์แวร์ที่ออกแบบไว้ใช้กับ Dual CPU มาใช้กับเมนบอร์ดที่เป็น Single CPU วินโดว์ก็จะไม่ทำงาน วิธีแก้คือ reinstall วินโดวส์ใหม่
สาเหตุอีก ประการการคือไฟล์ที่ชื่อ NToskrnl.exe หรือ Hal.dll หมดอายุหรือถูกแก้ไข ให้เอา Backup ไฟล์ หรือเอา original ไฟล์ที่คิดว่าไม่เสียหรือเวอร์ชั่นล่าสุดก๊อปปี้ทับไ ฟล์ที่เสีย

13.(stop code 0X0000003F)No More System PTEs
สาเหตุ และแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดจากระบบ Page Table Entries (PTEs) ทำงานโดย Virtual Memory Manager (VMM) ผิดพลาด ทำให้วินโดวส์ทำงานโดยไม่มี PTEs ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวินโดวส์ อาการนี้มักจะเกิดกับการที่คุณทำงานแบบ multi monitors
ถ้าคุณเกิดปัญหา นี้บ่อยครั้ง คุณสามารถปรับแต่ง PTEs ได้ใหม่ ดังนี้
1. ให้เปิด Registry ขึ้นมาแก้ไข โดยไปที่ Start > Run แล้วพิมพ์คำสั่ง Regedit
2. ไปตามคีย์นี้ HKEY_LOCAL_MACHINESYSTEMCurrentControlSetControlSe ssion ManagerMemory Management
3. ให้ดูที่หน้าต่างขวามือ ดับคลิกที่ PagedPoolSize ให้ใส่ค่าเป็น 0 ที่ Value data และคลิก OK
4. ดับเบิลคลิกที่ SystemPages ถ้าคุณใช้ระบบจอแบบ Multi Monitor ให้ใส่ค่า 36000 ที่ Value data หรือใส่ค่า 40000 ถ้าเครื่องคุณมี RAM
128 MB และค่า 110000 ในกรณีที่เครื่องมี RAM เกินกว่า 128 MB แล้วคลิก OK รีสตาร์ทเครื่อง

14.(stop code 0X00000024) NTFS File System

สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้สาเหตุเกิด จากการรายงานผิดพลาดของ Ntfs.sys คือไดร์เวอร์ของ NTFS อ่านและเขียนข้อมูลผิดพลาด สาเหตูนี้รวมถึง การทำงานผิดพลาดของ controller ของ IDE หรือ SCSI เนื่องจากการทำงานของโปรแกรมสแกนไวรัส หรือ พื้นที่ของฮาร์ดดิสก์เสีย คุณๆสามารถทราบรายละเอียดของerror นี้ได้โดยให้เปิดดูที่ Event Viewer วิธีเปิดก็ให้ไปที่ start > run แล้วพิมพ์คำสั่ง eventvwr.msc เพื่อเปิดดู Log file ของการ error โดยให้ดูการ error ของ SCSI หรือ FASTFAT ในหมวด System หรือ Autochk ในหมวด Application

15.(stop code 0X00000050)Page Fault In Nonpaged Area
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการ นี้สาเหตุการจากการผิดพลาดของการเขียนข้อมูลในแ รม การแก้ไขก็ให้ทำความสะอาดขาแรมหรือลองสลับแรมดูหรือไ ม่ก็หาโปรแกรมที่ test แรมมาตรวจว่าแรมเสียหรือไม่

16.(stop code 0Xc0000221)Status Image Checksum Mismatch
สาเหตุและแนวทาง แก้ไข:
อาการนี้สาเหตุมาจาก swapfile เสียหายรวมถึงไดร์เวอร์ด้วย การแก้ไขก็เหมือนข้อ 15

17.(stop code 0X000000EA)Thread Stuck In Device Driver
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการ ของ error นี้คือการทำงานของเครื่องจะทำงานในแบบวนซ้ำๆ กันไม่สิ้นสุด เช่นจะรีสตร์ทตลอด หรือแจ้งerror อะไรก็ได้ขึ้นมาไม่หยุด ปัญหานี้ สาเหตุอาจจะเกิดจาก Bug ของโปรแกรมหรือสาเหตุอื่นๆ เป็นร้อย การแก้ไขให้พยายามทำตามนี้
1.ให้ดูที่ Power supply ของคุณว่าจ่ายกำลังไฟเพียงพอกับความต้องการของคอมคุณ หรือไม่ ให้ดูว่าในเครื่องคุณมีอุปกรณ์มากไปไม่เหมาะกับ Power supply ของคุณ ก็ให้เปลื่ยนตัวใหม่ให้กำลังมากขึ้น ปัญหานี้ผมเคยมีประสพการณ์แล้ว 2 ครั้ง คือ
-1.1 ประสพการณ์ครั้งแรก เกิดจากคอมเครื่องที่สอง (ผมมีคอมตั้งโต๊อยู่ 2 เครื่อง ปัจจุบันใช้ Notebook ) สเปคหลักๆนะครับ
CPU:AMD Barton 2500 (210*11=2310)
M/B:Abit A7N
Ram:1G Dual Kington
Powersupply: Enamax 465P-VE
และอุปกรณ์ตกแต่งตรึม แรกๆเครื่องก็ดีโปรแกรมหรือเกมที่ว่าหนักๆมารับได้หม ด อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดอาการ error ตามข้อนี้ พยามยามแก้แล้วแก้อีก มันไม่หายสักที่ ก็บังเอิญไปเจอบทความของคุณ A-e-e แห่ง UnlimitPC ตามลิงค์นี้ http://www.unlimitpc.com/modules.php?name=Artical&pa=showpage&pid=19 ก็ลองดูที่ ฺBios ก็เป็นจริงอย่างคุณ A-e-e ว่าไว้ ก็ไม่รอช้าจัดการตามที่คุณ A-e-e สอน เรียบร้อยหายไม่มีอาการมากวนใจอีก ต้องขอบคุณ คุณ A-e-e มา ณ ที่นี่ด้วยครับ
-1.2 ประสพการณ์ที่สอง เกิดกับคอมเครื่องแรก สเปค
CPU:AMD T-Bred 1700 (166*11=1826)(Over clock ขึ้นสมอง)
M/B:Soltek 75FRN2-RL
Ram:512MB Dual Geil
Powersupply: Enamax 351P-VE
และอุปกรณ์ตกแต่งตรึมเหมือนกัน เครื่องก็เหมือนเคยใช้ได้ไม่มีปัญหาอยู่ก็มี error แบบนี้อีก คราวนี้ไม่กลัวเข้าใจว่าคงเหมื่อนเครื่องที่แล้วตรวจ ที่ Bios ก็เป็นเหมือนเคยก็จัดการทำการแก้ไขเหมือนเคยที่แล้วม า ผลไม่หายครับเป็นอีก นั่งงมอยู่วันเต็มๆ ด้วยถอดชิ้นส่วนเครื่องทั้งหมดมาตรวจ ก็เจอปัญหาจนได้ก็คือ ตัว Capacitor ที่เมนบอร์ดตัวที่จ่ายไฟเลี้ยง CPU บวมมีขี้เกลือเกาะเต็มไปหมด
ที่เขียนมายาวก็เพื่อเล่าประสพการณ์จริงให้ รู้เพื่อค ุณๆ อาจจะมีปัญหาเหมือนผมจะได้เป็นแนวทางแก้ไข
2. ให้คุณดูที่การ์ดจอว่าได้ใช้ไดร์เวอร์ตัวล่าสุด ถ้าแนใจว่าใช้ตัวล่าสุดแล้วยังมีอาการ ก็ให้ทำการ Rollback ไดร์เวอร์ตัวก่อนที่จะเกิดปัญหา
3. ตรวจดูการ์ดจอและเมนบอร์ดว่าเสียหรือไม่เช่น มีรอยไหม้, ลายวงจรขาด มีชิ้นสวนบางชิ้นหลุดจากตำแหน่งเดิม เป็นต้น
4. ดูที่ Bios ว่าส่วนของ VGA slot เลือกโหมด 4x,8x ถูกตามสเปคของการ์ดหรือไม่
5. เช็คดูที่ผู้ผลิดเมนบอร์ดว่ามีไดร์เวอร์ตัวใหม่หรือไ ม่ ถ้ามีให้โหลดลงใหม่ซะ
6. ถ้าคุณมีการ์ดแลนหรือเมนบอร์ดของคุณมี on board อยู่ให้ disable ฟังก์ชั่น "PXE Resume/Remote Wake Up" โดยไปปิดที่ BIOS

18.(stop code 0X0000007F) unexpected Kernel Mode Trap

สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกับนัก Overclock (ผมก็คนหนึ่ง) เป็นอาการ RAM ส่งข้อมูลให้ CPU ไม่สัมพันธ์กันคือ CPU วิ่งเร็วเกินไป หรือร้อนเกินไปสาเหตุเกิดจากการ Overclock วิธีแก้ก็คือลด clock ลงมาให้เป็นปกติ หรือ หาทางระบายความร้อนจาก CPU ให้มากที่สุด

19. (stop code 0X000000ED)Unmountable Boot Volume
สาเหตุและแนวทางแก้ไขอาการ ที่วินโดวส์หา ฮาร์ดดิสก์ไม่เจอ (ไม่ใช่ตัวบูตระบบ) ในกรณีที่คุณมีฮาร์ดดิสก์หลายตัว หนึงในนั้นคุณอาจใช้สายแพของฮาร์ดดิสก์ผิด เช่น ฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ 33MB/secound ซึ่งต้องใช้สายแพ 40 pin แต่คุณเอาแบบ 80 pin ไปต่อแทน
ที่มา : http://www.tip-com.net/

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

30 ทิปเล็กน้อย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

1. ในขณะที่คุณกำลังจะ Restart เครื่องใหม่ ก่อนที่จะกดปุ่ม OK ให้คุณกด Shift ค้างไว้ จะทำให้คุณ Restart ได้เร็วขึ้น
2. ในบาง Web Site หากคุณกด Ctrl ค้างไว้ และเลื่อน Scroll ที่ Mouse จะทำให้ตัวอักษรของ Web Site นั้นใหญ่ขึ้น
3. หากกดปุ่ม Refresh หรือ F5 แล้วยังเป็นข้อมูลเดิม ลองกด Ctrl + F5 รับรองจะได้ข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดแน่ๆ
4. คุณสามารถเปิดไฟล์ Tips.txt ขึ้นมาเพื่ออ่านเทคนิคต่างๆ ได้ ซึ่งไฟล์นี้จะอยู่ใน c:\\windows ของคุณ
5. ในระหว่างที่คุณกำหลังใช้ งาน IE อยู่นั้น สามารถกดปุ่ม F4 เพื่อเป็นการเปิดดู URL List ในช่อง Address ได้เลย
6. การกดปุ่ม Esc ระหว่างการใช้ IE จะทำให้ IE ของคุณนั้นหยุดโหลดได้ โดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม Stop
7. ระหว่างการใช้ IE สามารถกดปุ่ม Alt + D หรือ Ctrl + Tab เพื่อเข้า Address bar อย่างเร็วได้
8. คุณสามารถเพิ่มความเร็วให้กับ Internet ได้โดยทำการถอดสายเครื่องโทรศัพท์ ที่มีการต่อพ่วงอยู่กับสายที่ใช้ต่อ Internet ออก
9. คุณสามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า welcome กด Enter เพื่อเปิดหน้าต่างต้อนรับของ Windows ได้
10. ที่ Notepad หรือ ICQ หากคุณลืมเปลี่ยน Mode ภาษา ให้กดปุ่ม Ctrl + Back Space เพื่อแก้คำที่พิมพ์ผิดไปแล้ว
11. คุณสามารถ เปิด Folder Desktop อย่างรวดเร็ว โดย Start -> Run พิมพ์จุด (.) ลงไปแล้วกด Enter
12. ใน IE สามารถกด Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้า Page ลงได้ ส่วนเลื่อนขึ้นคือ Shift + Space Bar
13. ใน Windows คุณไม่สามารถ สร้าง Folder ที่ชื่อ \"con\" ได้
14. ใน IE ที่ช่อง Address ปุ่ม Ctrl+Enter สามารถช่วยคุณ
ในการพิมพ์ URL ได้เร็วยิ่งขึ้น
15. การกด Ctrl ค้างเอาไว้ ตอนเวลา BOOT เครื่อง จะทำให้คุณไม่พลาด Startup Menu
16. คุณ สามารถปิดนาฬิกาที่ Taskbar ได้ โดยคลิกขวาที่ Task bar > Properties > เอาเครื่องหมาย Show Click ออก
17. หากคุณกด F11 ใน Windows Explorer จะช่วยให้มีการทำงานที่สะดวกขึ้น
18. ใน ICQ การส่ง Message หากคุณกด Ctrl+Enter จะสะดวก กว่าการ Click Mouse ที่ปุ่ม send
19. คุณ สามารถกด F2 เพื่อ ใช้ในการเปลี่ยนชื่อ Icon ต่างๆ ได้
20. การกด F5 ใน NotePad จะเป็นการแทรก เวลา และวันที่ ปัจจุบัน
21. การกด Windows + E จะเป็นเปิด Windows Explorer ขึ้นมา
22. เปิด System Properties อย่างรวดเร็วคือการกด Window + Pause Break
23. การย่อยทุกๆ หน้าต่างที่เปิดใช้งาน ให้ยุบไปให้หมด คือการกด Window + D ถ้าจะขยายคืนมาอีก ให้กดซ้ำ
24. การเคาะวรรคในโปรแกรม Dreamweaver คือ Shift + Ctrl + Space Bar ส่วนการเว้นบรรทัดคือ Shift + Enter
25. การ ลบไฟล์แบบ ไม่เก็บไว้ใน Recycle Bin คือการกด Shift + Delete
26. การก ด Shift ค้างไว้ เวลาใส่แผ่น CD-Rom จะเป็นการไม่ให้มันเปิด Autorun ของแผ่น CD-Rom นั้นขึ้นมา
27. การ Restart เครื่องอย่างเร็ว คือไปที่ Start -> Shut Down... -> Restart จากนั้น ก่อนที่จะ OK ให้กด Shift ค้างเอาไว้
28. ในระหว่างใช้ Browser คุณสามารถกดปุ่ม Space Bar เพื่อเลื่อนหน้าลง และ Shift + Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้าขึ้นได้
29. กด Shift + คลิก จะเป็นการเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่ โดยไม่ต้อง back กลับ
30. คุณสามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า hwinfo /ui กด Enter เพื่อดูรายงานต่างๆ ของ HardWare

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คำศัพท์ สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์

เพื่อให้เข้าใจการใช้งานคอมพิวเตอร์


เพื่อเป็นแนวทางในการเรียนรู้การใช้งานคอมพิวเตอร์ ทางเราจึงได้รวบรวมคำศัพท์ต่างๆ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ หรือชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์เป็นหลัก ทั้งนี้เวลาใช้งาน หรือเรียกอุปกรณ์/ชิ้นส่วนนั้นๆ จะได้มีแนวทางและเข้าใจเหมือนกัน


คำศัพท์ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

  • การ์ดจอ
    • อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการจัดการให้เกิดการแสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
  • คีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์ (Keyboard)
    • อุปกรณ์ในการสั่งงานคอมพิวเตอร์อย่างหนึ่ง ในรูปแบบของการพิมพ์
  • คอมโบไดรซ์ (Combo-Drive)
    • อุปกรณ์สำหรับอ่าน/เขียนแผ่น CD แต่ไม่รองรับการเขียนแผ่น DVD แต่อ่านแผ่น DVD ได้
  • คอมพิวเตอร์เคส (Computer Case)
    • ตัวเครื่องที่หุ้มห่อชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์
  • เครื่องพิมพ์ (Printer)
    • อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับพิมพ์งานจากคอมพิวเตอร์ออกมาทางกระดาษ เครื่องพิมพ์มีหลายชนิดได้แก่ เลเซอร์, หัวเข็ม, แบบพ่นหมึก เป็นต้น
  • ซอร์ฟแวร์?(Software)
    • โปรแกรมในการใช้งาน เพื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง
  • ซีดีรอมไดรซ์ (CD-ROM Drive)
    • อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับอ่าน/เขียนแผ่น CD/DVD ทั้งนี้ขึ้นกับรุ่นที่ใช้งานว่ารองรับการอ่าน/เขียนแผ่น CD ประเภทไหนบ้าง
  • ซีอาร์ที มอนิเตอร์?(CRT Monitor)
    • จอภาพประเภทหนึ่ง ที่มีลักษณ์เหมือนจอโทรทัศน์รุ่นเก่า
  • ซีพียู (CPU)
    • หน่วยความผล หรือสมองของคอมพิวเตอร์
  • พอร์ต (Port)
    • ช่องทางสื่อสารของคอมพิวเตอร์ พอร์ตมีหลายอย่างเช่น Serial Port, Parallel Port, USB Port เป็นต้น
  • พาวเวอร์ซัฟฟลาย (Power Supply)
    • อุปกรณ์ในการควบคุมและจ่ายกระแสไฟภายในคอมพิวเตอร์
  • แฟลชไดรฟ์ (Flash Drive)
    • อุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบแฟลช แบบเคลื่อนย้ายได้ มีขนาดเล็ก พกพาได้สะดวก เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านทางพอร์ต USB
  • เม้าส์ (Mouse)
    • อุปกรณ์ในการสั่งงานคอมพิวเตอร์อย่างหนึ่ง ในรูปแบบของการคลิก
  • เมนด์บอร์ด/มาสเตอร์บอร์ด (Mainboard / Masterboard)
    • อุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ทุกชิ้นของคอมพิวเตอร์
  • ยูพีเอส (UPS)
    • อุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันไฟฟ้าดับ มีแบตเตอรี่ในตัว ในเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ
  • ยูเอสบี (USB)
    • ช่องทางการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ กับคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้งานมากที่สุด
  • สแกนเนอร์ (Scanner)
    • อุปกรณ์ในการสแกนภาพจากสิ่งต่างๆ เข้าไปเก็บในคอมพิวเตอร์ในรูปแบบของไฟล์ (คล้ายการถ่ายภาพ)
  • เว็บแคม (Web Cam)
    • เป็นอุปกรณ์ในการสื่อสารในรูปแบบวีดีโอ สามารถสื่อสารผ่านทางอินเตอร์เน็ตแบบเห็นภาพเคลื่อนไหวได้
  • หน่วยความจำ (RAM)
    • หน่วยความจำที่ใช้สำหรับการประมวลผลข้อมูล
  • แอลซีดี มอนิเตอร์?(LCD Monitor)
    • จอภาพประเภท แอลซีดี มีขนาดบาง ประหยัดพลังงาน
  • ฮาร์ดดิกส์ (Harddisk)
    • อุปกรณ์ในการเก็บข้อมูลที่สำคัญที่สุดของคอมพิวเตอร์
  • ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
    • อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนทั้งหมดของคอมพิวเตอร์ที่สามารถจับต้องได้ รวมทั้งภายนอกและภายในตัวเครื่องด้วย
?

เหตุผลที่คอมพิวเตอร์ของเรายังติดไวรัสอยู่

คอมพิวเตอร์คุณติดไวรัสหรือเปล่า

ทำไม ทั้งๆ ที่เราติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสแล้ว คอมพิวเตอร์ของเรายังติดไวรัสอยู่ มีหลากหลายเหตุผลที่หลายๆ คนอาจมองข้าม วันนี้ เรามารวบรวมเหตุผลที่ำทำให้คอมพิวเตอร์ของเรายังติดไวรัส เผื่อเอาไว้ให้เพื่อนๆ ได้นำไปปฏิบัติและป้องกัน เชื่อว่า จะสามารถลดปัญหาไวรัสได้ในระดับหนึ่งอย่างแน่นอน ไม่เชื่อ ลองทำตามกันดูและหลีกเลี่ยงการปฏิบัติการกระทำบางอย่าง

เหตุผลที่คอมพิวเตอร์ของเรายังติดไวรัส

  1. ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัส แต่ม่ได้มีการอัพเดท
  2. ระบบปฏิบัติการ หรือส่วนใหญ่ใช้ Windows ยังเป็นเวอร์ชั่นเก่าอยู่ เช่น Windows 98, Windows ME, Windows 2000 เป็นต้น เวอร์ชั่นเหล่านี้ ทาง Microsoft ได้เลยการพัฒนาไปแล้ว ดังนั้น ถ้าคุณยังใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นเหล่านี้ โอกาสเสีียงก็สูงกว่าเวอร์ชั่นใหม่ๆ
  3. ไม่มีการอัพเดทระบบปฏิับัติการ หรือที่ Microsoft เีรียกว่า Windows Updated ซึ่งจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะการอัพเดท Windows ทาง Microsoft จะพยายามปิดช่องโหว่งของโปรแกรม ซึ่งจะทำให้ลดปัญหาไวรัสได้ในระดับหนึ่งเลบทีเดียว..
  4. ใช้ระบบปฏิบัติการแบบไม่ต้องจ่ายเงิน หรือประเภทแผ่นละร้อยบาท อันนี้อันตรายมากๆ เพราะจะไม่สามารถอัพเดทโปรแกรมให้ทันสมัยได้
  5. แบ่งปันข้อมูล ทาง Flash Drive จากคอมฯ เครื่องอื่นๆ อันนี้สำคัญมาก เพราะโอกาสติดสูงมาก เครื่องที่คุณนำ Flash Drive ไปใช้งานร่วมกัน อาจไม่มีระบบป้องกันไวรัสที่อัพเดท
  6. ใช้โปรแกรมสื่อสาร ประเภท IM (Instant Messaging) อาจได้ของขวัญเป็นไวรัสง่ายๆ โดยเฉพาะถ้าคุณมีการ download ไฟล์ที่แนบมา
  7. ถ้ายังไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้อีเมลได้ ก็ต้องระวัง โดยเฉพาะกับอีเมลหลอกลวง
  8. ติดตั้งโปรแกรมแบบไม่ถูกต้องตามกฏหมาย มักได้ของแถมเป้นไวรัสประเภท Trojan
  9. ม่ใ่ส่ Password Windows แค่ใส่รหัสผ่านให้กับ Windows ก็ช่วยลดปัญหาได้แล้วครับ
ลองสำรวจการใช้คอมพิวเตอร์ของคุณเอง มีข้อใดตรงกับการใช้งานของคุณหรือไม่่ ถ้ามีสักข้อ นั่นหมายความว่า คอมฯ ของคุณเสี่ยงกับการติดไวรัสอยู่ครับ

โทรจันไวรัสแพร่กระจายผ่าน"เมาส์"ได้

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวเช้านี้ อาจจะทำให้คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip หลายๆ ท่านต้องแอบหวั่นใจเล็กๆ เป็นแน่ เมื่อ Netragard บริษัทผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์ได้ทดลองแฮค "เมาส์" ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ให้มันสามารถแพร่กระจายโทรจันไวรัส หรือมัลแวร์ต่างๆ ได้ นอกเหนือจากการที่ตัวคุณเองจะพลัดหลงเข้าไปในเว็บไซต์อันตราย หรือเสียบแฟลชไดรฟ์ที่ติดไวรัส...โอ้ว พระเจ้า จอร์จช่วยซาร่าด้วย!!!



Netragard ได้ทดลองปรับแต่งฮาร์ดแวร์ของ"เมาส์"ที่เราใช้เสียบเข้ากับพอร์ต USB ใช้งานทุกเมื่อเชื่อวันให้มันสามารถแพร่กระจายมัลแวร์เข้าไปในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดาย "เมาส์ที่เราดัดแปลงภายในจะได้รับการติดตั้งไมโครคอนโทรลเลอร์ ไมโครยูเอสบีฮับ สายเคเบิ้ลมินิยูเอสบี แฟลชไดรฟ์ขนาดเล็ก และ"มัลแวร์"ที่ใช้แพร่กระจาย ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะไม่ต้องเป็นเมาส์ แต่เป็นอุปกรณ์ที่ผู้ใช้นำไปเสียบกับพอร์ตยูเอสบีได้โดยไม่สงสัยในตัวมัน โดยทันทีที่ผู้ใช้เสียบเมาส์อันตรายเข้ากับคอมพิวเตอร์ มัลแวร์ที่ทำขึั้นมาโดยเฉพาะก็จะติดเข้าไป และแพร่กระจายตัวเองต่อไปยังคอมพิวเตอร์เครื่้องอื่นๆ บนเครือข่ายต่อไป" Netragard กล่าว

ในโครงการทดลองนี้ ทางบริษัท Netragard ใช้เมาส์ Logitech USB โดยติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมดข้างต้นไว้ภายใน ซึ่งแน่นอนว่า ภายในตัวมันจะมีแฟลชไดรฟ์ยูเอสบีขนาดเล็กที่เก็บมัลแวร์ไว้ภายใน อย่างไรก็ตาม แม้แฟลชไดรฟ์ดังกล่าวจะไม่ได้ใส่เข้าไปในเมาส์ Netragard กล่าวว่า มันก็ยังสามารถดึงมัลแวร์จากเว็บไซต์แทนได้ นอกจากนี้ ทางบริษัทยังพยายามทดลองทำให้มัลแวร์ที่อยู่ใน"เมาส์"หลุดรอดจากการไล่จับของแอนตี้ไวรัสซอฟต์แวร์อีกด้วย โดยเฉพาะไดอะล็อกบ๊อกซ์ที่โผล่ขึ้นมาให้ผู้ใช้ตอบว่า ยอมให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตัวนี้ หรือไม่ ซึ่งหากผ่านตรงนี้ไปได้ ผู้ใช้จะไม่ทันสังเกตอาการผิดปกติใดๆ ได้เลย Netragard ได้ทดลองส่งเมาส์ไปยังเป้าหมาย โดยอ้างว่าเป็นโปรโมชั่น เพื่อหลอกล่อให้เหยื่อใช้มัน ไม่เกินสามวัน ทางบริษัทก็พบมัลแวร์ที่อยู่ในเมาส์ตัวดังกล่าวส่งข้อมูลกลับมายังบริษัท ทั้งหมดนี้ Netragard พยายามที่จะพิสูจน์ให้ตระหนักว่า ฮาร์ดแวร์ที่ดูเหมือนไม่มีภัยอะไร สามารถใช้เป็นพาหะในการแพร่กระจายโค้ดอันตรายได้เหมือนกัน
ข้อมูลจาก: Netragard